RaidaiOnline101.BlogSpot.com

สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อการหารายได้ออนไลน์ สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานที่บ้าน กำหนดเวลาการทำงานได้เอง หรือชื่นชอบการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ ท่านสามารถใช้ความสามารถในการเล่นอินเตอร์เน็ตของท่านเปลี่ยนเป็นเงินมากพอที่จะทำเป็นงานประจำได้ ผมตั้งใจเขียนบทความเกี่ยวกับเทคนิคการหารายได้ผ่านเน็ตจากประสบการณ์ตรง ไม่ว่าจะเป็น google adsense, การโฆษณาใน adwords, การทำ affiliate program, การโปรโมทเว็บไซต์ รวมไปถึงการทำ SEO (search engine optimization) คุณสามารถติดตามอัพเดทเทคนิคข่าวสารจากเราผ่านทาง Twitter เพื่อเส้นทางการสร้างรายได้ที่มั่นคงนะครับ

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทำ Affiliate ด้วย Google Adwords

วันนี้ผมขอนำเสนอ โมเดลการทำธุรกิจออนไลน์โดยการทำ Affiliate Program ผ่าน Google Adwords นะครับ อย่างที่กล่าวไปแล้วการทำ Affiliate ก็คือการสมัครเข้าร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับบริษัทที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการ เมื่อสมัครเสร็จก็นำมาโฆษณาขาย เมื่อขายได้จะได้รับค่าคอมมิชชั่นส่วนหนึ่งครับ วิธีการทำ Affiliate Program วิธีหนึ่งที่นิยมกันมากก็คือการนำไปโฆษณาผ่าน Google Adwords ครับ ขั้นตอนก็มีดังนี้

1. สมัครเป็น Affiliate กับบริษัทที่เราต้องการนำสินค้ามาขาย เช่น Amazon, CJ, หรือ Click Bank
2. เมื่อสมัครเสร็จก็เข้าไปเลือกสินค้าที่ต้องการขาย
3. หา Affiliate link ของสินค้านั้นมา save ไว้ ซึ่ง Affiliate link นี้จะเป็นตัวนำไปใช้ให้ลูกค้าของเราคลิ้กผ่านไปยังหน้าสินค้าหรือบริการของเรา ระบบจะทำการเก็บข้อมูลว่าสินค้าที่ขายได้นั้น ผ่านการแนะนำจากเรา
ข้อควรระวัง ห้ามนำลิ้งค์ที่นำไปยังหน้าสินค้าโดยตรงไปโฆษณาขาย เนื่องจากเราจะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น
4. สมัคร Google Adwords ที่ http://adwords.google.com
5. สร้างเคมเปญโฆษณาสินค้าเราใน Google Adwords
6. ค้นหา keywords ที่เหมาะสม โดย keywords จะเป็นตัวกำหนดให้โฆษณาของเราไปแสดงในหน้าที่เกี่ยวข้องกับคำที่เรากำหนด ท่านสามารถเลือก keywords อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ Keywords research tool ตัวแนะนำและเปิดให้ใช้ฟรีก็เป็นของ Google เองก็คือ Google Adwords Keywords Tool สำหรับตัวที่ต้องซื้อมาใช้งานที่แนะนำก็คือ Keyword Elite ครับ กลยุทธในการเลือก keyword มีหลากหลาย ต้องดูกลุ่มเป้าหมาย เลือกดูราคาที่เหมาะสม และจำนวนคนค้นหาต่อวันครับ ซึ่งผมไม่ขอลงรายละเอียดในบทความนี้ครับ
7. เขียนโฆษณาให้เกี่ยวข้องและอ่านแล้วรู้สึกอยากซื้อสินค้าหรือบริการของท่าน
8. ตั้งราคาโฆษณา (เรียกว่าการ bid) หากท่านตั้งราคาสูง โฆษณาก็จะแสดงตำแหน่งสูงกว่า ถูกคลิ้กมากกว่า และเสียเงินมากกว่า
9. รอดูผลลัพธ์รายได้ที่เกิดขึ้น และปรับปรุงพัฒนาเคมเปญโฆษณาของท่าน

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
1. การทำ Affiliate คืออะไร
2. รู้จักกับ Google Adwords
3. เขียนโฆษณา Adwords อย่างไรดี

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เขียนเว็บไซต์ด้วย CMS


CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นบริการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปซึ่งใช้งานได้ง่าย สามารถปรับแต่งลักษณะหน้าตาของเว็บได้มากพอสมควร ตัวอย่างเช่น Pligg, Drupal, Joomla, Wordpres เป็นต้น

CMS แต่ละตัวจะมีคุณลักษณะ หรือ feature ที่แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้ได้ตามที่เราถนัดและต้องการ อย่างเช่น Drupal จะใช้ง่านค่อนข้างง่ายไม่ซับซ้อน มีระบบเว็บบอร์ด เว็บบล็อกในตัว ส่วน Joomla ก็จะเป็นระบบที่ซับซ้อนหน่อย สามารถปรับแต่งได้มาก หน้าเว็บดูมืออาชีพ สำหรับ Pligg จะเน้นไว้สร้างเว็บที่ให้สมาชิกโพสเนื้อหาเข้าไป ท่านสามารถลองเลือกมาใช้งานดูก่อนได้ครับว่าชอบและเหมาะกับตัวไหน

การใช้งาน CMS โดยทั่วไปมีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
1. เช่าเว็บโฮสติ้ง และจดทะเบียนโดเมนเนมก่อน
2. หลังจากนั้นก็ดาวน์โหลด package ล่าสุดจากเว็บไซต์ที่ให้บริการ CMS มา หากต้องการใช้ภาษาไทยด้วยให้หา Thai language extention มาด้วย
3. นำไฟล์ทั้งหมด Copy นำไปลงไว้ในโฟลเดอร์ที่เราต้องการจะเผยแพร่สู่สาธารณะ
4. เข้าเว็บเบราเซอร์ พิมพ์ URL ไปยังตำแหน่งที่เราเก็บไฟล์ดังกล่าวไว้
5. ตั้งค่าตามคำแนะนำที่ขึ้นในหน้าจอ
6. เขียนเนื้อหาเข้าไปในเว็บไซต์ และปรับแต่งให้เป็นของท่านเอง!
เท่านี้ก็ได้เว็บไซต์อย่างมืออาชีพอย่างง่ายดายแล้วครับ ไม่ต้องไปนั่งเขียนโค้ด HTML เองให้เมื่อย

เว็บไซต์ที่อ้างถึง
1. Drupal (http://www.drupal.org)
2. Joomla (http://www.joomla.com)
3. Wordpress (http://www.wordpress.org)
4. Pligg (http://www.pligg.com)

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การทำ Affiliate คืออะไร

Affiliate marketing เป็นการตลาดแบบหนึ่ง ซึ่งให้บุคคลทั่วไป สมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย (affiliate) เมื่อขายสินค้าหรือบริการได้ ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง คล้ายกับการเป็นนายหน้าขายสินค้า การตลาดแบบนี้มีข้อดี คือไม่ต้องเสียแรงหาวิธีการโฆษณาสินค้าเอง เนื่องจากมีคนนำสินค้าหรือบริการไปโฆษณาขายให้อยู่แล้ว

มีเว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางการทำ Affiliate marketing โดยเฉพาะ เว็บไซต์พวกนี้ จะรวบรวมบริษัทที่ต้องการโปรโมทสินค้าผ่านระบบ Affiliate ไว้ โดยเปิดให้บุคคลที่สนใจนำสินค้าจากบริษัทเหล่านี้ไปโฆษณา สมัครเป็นสมาชิก และเลือกสินค้าและบริการที่ตนเองสนใจจะเป็นตัวแทนจำหน่าย นำไปขายอีกทีหนึ่ง โดยเว็บไซต์จะเป็นตัวกลางในการคิด และจ่ายค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้าให้ ตัวอย่างเว็บไซต์พวกนี้เช่น
1. Commission Junction (www.cj.com) เว็บไซต์นี้รวบรวมสินค้าและบริการจำนวนมากจากบริษัทหลายประเภท แยกไว้เป็นหมวดหมู่ เช่นหมึกพรินเตอร์ ของขวัญ ช๊อกโกแล๊ต รวมถึงบริการเช่น เช่าเว็บโฮสติ้ง ค่าคอมมิชชั่นขึ้นกับบริษัท ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-10 เปอร์เซนต์ของราคาขาย
2. Click Bank (www.clickbank.com) เว็บไซต์คลิกแบ้งค์เป็นศูนย์รวมการขายสินค้าผ่านระบบ Affiliate รายใหญ่ ซึ่งสินค้าและบริการที่ขายจะเน้นเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หนังสือแบบ E book (อาจจะมาในรูปไฟล์ PDF) โปรแกรมคอมพิวเตอร์หลากหลายประเภท แอนตี้ไวรัส แอนตี้สปายแวร์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อผู้ใช่ชำระเงินแล้วสามารถดาวน์โหลดสินค้าไปใช้ได้ทันที บริษัทที่นำสินค้าเข้าขายใน Click Bank ให้ค่าคอมมิชชั่นค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่อยู่ที่ 25-75% ของราคาขาย

นอกจากนี้บางบริษัท ก็เปิดให้สมัครเป็น Affiliate ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง อย่างเช่น ผู้ขายสินค้าออนไลน์รายใหญ่อย่าง Amazon (www.amazon.com) ซึ่งมีสินค้าให้เราเลือกนำมาขายได้จำนวนมาก

Hotels Affiliate ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเรามีหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายห้องพักจากโรงแรมในไทยและหรือต่างประเทศ ถ้ามีคนจองห้องพักผ่านเรา ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เปิดรับสมัคร Hotels Affiliate เช่น Agoda (www.agoda.co.th), Ido24 (www.ido24.com)

ถึงตอนนี้ บางท่านอาจสงสัยว่า แล้วสมาชิกจะนำสินค้าไปโปรโมทขายที่ไหน เรื่องการโฆษณาสินค้า หรือเว็บไซต์ เป็นเรื่องที่ท้าทายมากเรื่องหนึ่งในการทำธุรกิจออนไลน์ วิธีการโฆษณา ขึ้นกับความถนัดของแต่ละคน ตัวอย่างเช่นการโฆษณาใน Google Adwords การเขียนเว็บบล๊อก การทำเว็บไซต์ การโฆษณาในเว็บบอร์ด (โดยไม่สแปม) การโฆษณาผ่าน Social Network ต่างๆ เช่น Hi5, Facebook, Twitter เป็นต้น

ขั้นตอนการสมัครและการจ่ายค่าคอมมิชชั่นของแต่ละบริษัทนั้นแตกต่างกันไป เรื่องการจ่ายค่าคอมมิชชั่น โดยส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นเช็ค ซึ่งสามารถนำมาขึ้นเงินในธนาคารในประเทศไทยได้ บางเว็บไซต์มีบริการ Direct Deposit ซึ่งจะโอนเงินค่าคอมมิชชั่นผ่านทางธนาคารเข้ามายังบัญชีของเราเลย เช่น CJ, Clickbank

การทำ Affiliate เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการหารายได้ออนไลน์อย่างจริงจัง เนื่องจากมีแบบแผนที่ชัดเจน เป็น
โมเดลธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ หากทำได้ดีจะสามารถสร้างรายได้เป็นงานประจำได้

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

HYIP ได้เงินจริงหรือไม่

ในอินเตอร์เน็ตมีการเชิญชวนการสร้างรายได้ออนไลน์ประเภทหนึ่งคล้ายแชร์ลูกโซ่ เรียกว่า HYIP ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็น หรือเคยได้สัมผัสมาแล้ว HYIP ย่อมาจาก High Yield Investment Program แปลเป็นไทยว่า "โปรแกรมการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง" บริษัท HYIP มักอ้างว่าระดมทุนจากลูกค้า ไปลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หรือน้ำมัน ทองคำ บางบริษัทจะให้ข้อมูลหลอกลวงแบบละเอียดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ บริษัท HYIP จะให้ผลตอบแทนกับผู้นำเงินเข้าร่วมลงทุนในอัตราสูงมาก โดยเฉลี่ย 0.5-1 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน ซึ่งฟังดูน่าสนใจมาก

บริษัท HYIP หลอกลวงหรือไม่ ลองคิดดูง่ายๆ หากบริษัทเหล่านี้จะสามารถอยู่ได้ ต้องใช้เงินทุนไปทำกำไรให้ได้มากกว่า 0.5-1% ต่อวัน ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก และหากสามารถทำได้จริง บริษัทที่มีเงินทุนไม่มากจะสามารถมีรายได้อย่างมหาศาลในเวลาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องระดมทุนอีก

เว็บไซต์ HYIP มักตั้งขึ้นมาแบบลอยๆ โดยมีเงินทุนเพียงเล็กน้อย และทยอยปิดตัวลงไปตามเสถียรภาพ เว็บที่ดังหน่อย มีคนสมัครเป็นสมาชิกและฝากเงินจำนวนมาก ก็จะอยู่ได้นาน เนื่องจากมีเงินหมุนเวียนเยอะ เว็บไซต์ HYIP บางเว็บ เปิดรับสมัครสมาชิกและให้ฝากเงิน พอถอนจริงกลับถอนไม่ได้ เว็บ HYIP บางเว็บช่วงแรกๆก็ถอนได้ และได้เงินตามสัญญา แต่ในท้ายที่สุดเว็บพวกนี้จะปิดหนีหมด เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยสูงขนาดนั้นได้

เว็บ HYIP มีแผนการตลาดแบบแนะนำสมาชิก โดยจะให้เป็นเปอร์เซนต์ของจำนวนเงินฝากของสามาชิกที่เราแนะนำมาได้ ซึ่งทำให้มีการโฆษณา HYIP แบบเกินจริงให้ผู้ลงทุนมือใหม่เข้าไปด้วยความโลภ โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้น มีเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ตั้งขึ้นเพื่อหารายได้จากค่าคอมมิชชั่นการแนะนำสมาชิกโดยเฉพาะ เว็บพวกนี้เรียกว่า HYIP monitoring site จะคอยตรวจสอบสถานะของเว็บ HYIP ต่างๆว่ายังจ่ายค่าคอมมิชชั่นดีหรือไม่ เช่น http://www.hyip.com

ทำไมบางคนยังเล่น HYIP คำตอบก็คือ 1. คิดว่าจะได้เงินจริงๆ เล่นไปโดยใช้อารมณ์ หรือความโลภ เนื่องจากผลตอบแทนจาก HYIP นั้นสูงมาก หรือ 2. เข้าใจเป็นอย่างดีว่าเว็บ HYIP มีความเป็นไปอย่างไร เลือกลงเงินในจังหวะที่เว็บยังไม่ปิดหนี สามารถถอนเงินได้ตามสัญญา อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบนี้มีความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากผู้เล่นไม่สามารถทราบได้ว่า เว็บไหนจะถอนเงินได้จริง เว็บจะปิดหนีเมื่อไหร่ การลงทุนแต่ละครั้งก็ไม่สามารถลงทุนมากได้ เนื่องจากความเสี่ยงในการเสียเงินเปล่าสูง ดังนั้นเมื่อเงินที่ลงไปน้อย ถึงแม้ว่าโชคดีเจอเว็บที่ยังถอนเงินได้อยู่ ก็ได้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

การเปิดบริษัท HYIP ผิดกฏหมายประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับในการหารายได้ออนไลน์


การหารายได้ออนไลน์ หรือการหารายได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ก็เหมือนกับการทำธุรกิจทั่วไป ต้องมีความอดทน และมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ใช้บริการ ผู้ที่เข้ามาหารายได้ผ่านเน็ตบางส่วน คิดว่าการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นการจับเสือมือเปล่า ซึ่งเปล่าเลย ธุรกิจส่วนใหญ่ที่เติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคงนั้น ผู้ประกอบการต้องสร้างบริการที่มีมูลค่าให้กับผู้ใช้บริการ นี่เป็นหลักการสำคัญของการทำธุรกิจให้ยั่งยืน

ผู้อ่านบางคนอาจเห็นการมีคนโพสในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับการหารายได้ทางอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายดาย และได้จำนวนมาก ผู้ที่ทำเช่นนี้ได้มี 3 แบบ ส่วนแรกเกิดโชค หรือเรียกง่ายๆว่าฟลุ้ก พวกนี้มักได้รายได้อย่างฉาบฉวยจากโชคเพียงในครั้งแรกๆ และมักจะพบกับความยากลำบากในภายหลัง แบบที่สองเรียกว่ามีเส้นสาย กล่าวคือมีเครือข่ายหรือเพื่อนฝูงให้พึ่งพาอาศัย ส่วนแบบที่สามเป็นประเภทที่มีความสามารถจริง เป็นผู้มีพรสวรรค์และมีไหวพริบในการสร้างรายได้โดยที่ไม่ต้องเสียแรง คนพวกนี้ต้องอาศัยไหวพริบตลอดเวลาในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เนื่องจากงานที่เขาทำนั้น อาศัยช่องว่างหรือจังหวะโอกาสที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนนั้น ตามที่กล่าวไปแล้ว ก็คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของเรา ต้องให้ผู้รับบริการหรือลูกค้าพึ่งพาเรามากที่สุด ยิ่งงานของเราเป็นงานที่เฉพาะเจาะจง ใช้ความสามารถส่วนตัว และลูกค้าต้องพึ่งพาเรามากเท่าใด รายได้และความมั่นคงในการทำธุรกิจก็จะมากขึ้นเท่านั้น

ลองคิดดูถึงความสามารถพิเศษของตัวท่าน ว่าท่านมีอะไรดี ถนัดในด้านไหน การประกอบธุรกิจที่ท่านถนัด จะช่วยให้การประกอบธุรกิจประสบผลสำเร็จง่ายขึ้น

เริ่มต้นกับการหารายได้ออนไลน์

สำหรับผู้ที่เล่นอินเตอร์เน็ตเป็นประจำ คงสังเกตเห็นโฆษณา สื่อ เว็บไซต์ หรือหนังสือต่างๆที่ ชี้ช่องทางการหารายได้ออนไลน์มาบ้าง บางคนก็สงสัยว่าการหารายได้ออนไลน์นั้นเป็นไปได้หรือไม่ ยากง่ายเพียงใด จะถูกหลอกหรือไม่ ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่สนใจเรื่องการหารายได้โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต และอยู่ในวงการมานาน จึงตั้งใจเขียนบล๊อกนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนที่อยากจะสร้างรายได้โดยการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต หรือเรียนกว่างานออนไลน์นั่นเอง

การหารายได้ออนไลน์มีหลายประเภท ประเภทที่ได้เงินจริง มีโครงสร้างการทำรายได้ที่แน่นอน มีดังนี้
1. การเป็นตัวแทนขายสินค้าหรือบริการ (affiliate) คือการนำสินค้าของบริษัทหรือเว็บไซต์แม่มาขาย แล้วได้ค่าตอบแทนเป็นคอมมิสชั่น ได้ตามจำนวนชิ้นที่เราขายได้ เช่น ตัวแทนขายของเว็บไซต์ อเมซอน (http://www.amazon.com) เป็นต้น
2. การเป็นเจ้าของเว็บไซต์และคิดรายได้จากค่าโฆษณา อาจจะเป็นโฆษณาที่มีผู้มาติดต่อขอโฆษณาโดยตรงหรือเป็นบริษัทโฆษณาที่ แจกจ่ายโฆษณาที่เกี่ยวข้องไปยังเว็บไซต์ของเราโดยอัตโนมัติ(ซึ่งเราต้องสมัคร) เช่น Google Adsense, Bum Q, Nipa เป็นต้น
3. การเปิดเว็บไซต์ขายของหรือขายบริการ หรือ E-commerce ปัจจุบันมีเว็บไซต์สำเร็จรูปสำหรับการเปิดร้านขายสินค้าออนไลน์ได้โดยง่าย
4. การทำธุรกิจเครือข่าย รายได้หลักมาจากการขายสินค้าและการหาสมาชิก โดยมีการกินเปอร์เซ็นต์รายได้ของสมาชิกในสาย ธุรกิจเช่นนี้มีมานานแล้ว ที่โด่งดังเช่นแอมเวย์ แต่ปัจจุบัน มีโมเดลทางธุรกิจที่เป็นร้านค้าออนไลน์ด้วย โดยเน้นการขายสินค้าและหาสมาชิกผ่านทางอินเตอร์เน็ต
5. ประเภทอื่นๆ จะขอกล่าวละเอียดเป็นอย่างๆไปภายหลัง

การทำธุรกิจออนไลน์ก็เหมือนการทำธุรกิจอย่างอื่น คืออาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การจัดการ และที่สำคัญคือความมุ่งมั่นอดทน ผู้ทำธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่มักหวังได้รายได้จากการทำธุรกิจอย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริง การสร้างรายได้ที่ยั่งยืนนั้นต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก
 

สมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้

เกี่ยวกับเว็บไซต์

บทความที่เขียนในเว็บไซต์นี้ สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามมิให้คัดลอกนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ ผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ที่เกิดจากการนำเทคนิควิธีการต่างๆไปใช้ เนื่องจากการทำธุรกิจออนไลน์มีปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณและนำไปใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ติดต่อสอบถาม

มีข้อสงสัยหรือขอเสนอแนะ โปรดอย่าลังเลใจ

Contact Email:
expert.in.th@gmail.com

เรายินดีรับฟังและยินดีให้บริการครับ